Sunday, March 29, 2015

ปฏิญญาปวงชน ว่าด้วยรัฐประธิปไตยไทย

ปฎิญญาแห่งชาติของประชาชน
ว่าด้วยรัฐประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย

The People’s National Declaration of a Democratic State of Thailand

ร่างฉบับแก้ไขครั้งที่สอง

ประเทศไทยในยุคศตวรรษที่ 21 มีองค์ประกอบทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา และการเมือง ที่พร้อมสำหรับการเป็นรัฐประชาธิปไตยสมบูรณ์อย่างถาวร เพราะปวงชนชาวไทย ส่วนใหญ่เข้าใจในหลักการพื้นฐานสำหรับการปกครองแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ว่าอำนาจอธิปไตย อันเป็นอำนาจสูงสุดนั้นเป็นของประชาชน หาใช่ของกษัตริย์หรือกลุ่มอภิสิทธิชนใด ๆ ไม่ นอกจากนี้ มหาประชาชนยังได้รับรู้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ภายใต้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ที่มีพัฒนาการไปในทางทำลายล้าง และนำไปสู่ความตกต่ำของประเทศ จนกลายไปสู่การปกครองแบบเผด็จการซ่อนรูปดังที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนทั่วไปในศกนี้ โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของประชาชนได้ แถมถูกมองว่าเป็นศูนย์กลางของปัญหาความขัดแย้งเสียเอง โดยมีสถาบันทหารและตำรวจ สถาบันการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจและสื่อ กลุ่มนักวิชาการและหน่วยงานอิสระหัวเอียงขวา และชนชั้นศักดินาหรืออภิสิทธิชน ผู้ซึ่งได้ปรากฎชัดออกมาจากการเลือกตั้งในระยะสองทศวรรษหลังนี้ ว่าเป็นคนส่วนน้อยของประเทศนั้น สามารถใช้อำนาจพิเศษ แย่งชิงหรือปล้นอำนาจ ของประชาชนส่วนใหญ่ ของประเทศไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพรรคพวก ทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างมหาศาล ดังเห็นได้จากหนี้สินที่รัฐบาลเผด็จการซ่อนรูปของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งอยู่ภายใต้ การเป็นประมุขของกษัตริย์ภูมิพลและพระราชินีสิริกิตต์ ที่สร้างหนี้สินให้กับประเทศ เกือบหนึ่งล้านห้าแสนล้านล้านบาท (1,500,000,000,000 บาท) ภายในเวลาแค่สองปีกว่า ๆ โดยหว่านเงินไปกับโครงการที่หาประโยชน์ อันจับต้องได้หรือมีผลระยะยาวไม่ได้ และได้ทุ่มงบประมาณให้กับงานของกองทัพ ที่สร้างความวุ่นวายในประเทศและกับประเทศข้างเคียงบังหน้า แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เพื่อตอบสนองต่อการปันผลประโยชน์จากเงินภาษีอากรของปวงชน และเพื่อการสร้างสถานการณ์ อันนำไปสู่บิดเบือนความจริงของการลุกฮือขึ้นมาทวงอำนาจของประชาชนหัวก้าวหน้า และการให้โอกาสกองทัพในการใช้สถานการณ์เข่นฆ่าประชาชนจากช่องโหว่ในกฎหมายที่อาศัยความสงบแห่งชาติมาอ้าง เพื่อใส่ร้ายให้ปวงชนผู้บริสุทธิ์กลายเป็นผู้ก่อการร้าย และภายในสถานการณ์ที่ชาติเสียหายแสนสาหัสเหล่านี้ กษัตริย์ไทยกลับกลายเป็นราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก มีทรัพย์สินถึงสามหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณเก้าแสนล้านล้านบาท (900,000,000,000 บาท) ติดต่อกันหลายปี โดยมีทรัพย์สินรวมห่างจากอันดับสองถึงหมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณสามหมื่นล้านบาท พร้อมกันนี้ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนส่วนใหญ่ก็ได้ถ่างออกไปอย่างมหาศาล สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า จากการที่รายได้หดหาย แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ เกิดการแตกแยกของประชาชนในชาติ โดยการโหมกระพือของสื่อแห่งรัฐและสื่อเอกชนที่ไร้จรรยาบรรณ ที่ได้่สร้างกระแสความเกลียดชัง และต่อต้านความเจริญงอกงามของระบอบประชาธิปไตย โดยที่กลไกของรัฐที่ดูแลสื่อสารมวลชนก็รู้เห็นเป็นใจ ด้วยการปล่อยให้สื่อฝ่ายขวา เพาะเชื้อมะเร็งร้าย ให้กับสังคมโดยสะดวก ในขณะเดียวกันกับที่ พวกเขาใช้อำนาจจากกฎหมายหมิ่นกษัตริย์ และ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เพื่อปิดหูปิดตาประชาชนอย่างบ้าคลั่งในการไล่ปิดสื่อทุกรูปแบบ ของฝ่ายประชาชนหัวก้าวหน้าหรือเหล่าเสรีชน ผู้ต้องการเสรีประชาธิปไตยอันสมบูรณ์

บัดนี้เหล่ามหาประชาชนต้องการแสดงออกถึงเจตนารมย์อันชัดแจ้งว่า ได้เข้าใจปัญหาของชาติ ตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายทศวรรษ อันถูกทำให้เกิดขึ้นโดยการกระทำของกลุ่มคนข้างต้น ที่ทำตัวเป็นปฎิปักษ์ต่อการพัฒนาเสรีประชาธิปไตยทุกรูปแบบ และเป็นการขัดกับหลักสากล แห่งความมีเสรีภาพ เสมอภาค และบรรยากาศแห่งการมีสันติสุขร่วมกันฉันท์พี่น้องร่วมชาติ รวมถึงการอยู่ดีกินดี ของมวลมหาประชาชนไทย โดยพวกเขาได้ปล้นอำนาจอธิปไตยไป ด้วยอำนาจสั่งการที่อยู่ เหนือระบบกฎหมายและศีลธรรม จนทำให้กลายเป็นการปกครองที่ ไม่ใช่ของประชาชนที่เอื้อประโยชน์แก่มหาชนอย่างแท้จริง ดังปรากฎชัดว่า คณะผู้ทรยศต่อระบอบ ประชาธิปไตยเหล่านี้ ได้ดำเนินการปล้นอำนาจจากประชาชนด้วยการรัฐประหาร แล้วเขียนกฎหมายกบถ พร้อมตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ขึ้นมาสานต่อการบีฑาและย่ำยี ทุกความพยายาม และทุกตัวแทนของประชาชนที่ใฝ่ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์ ทำให้ตัวแทนประชาชน และประชาชนทั้งหลาย ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยมือเปล่า ถูกกดขี่และฆ่าฟันในระบอบปัจจุบัน และผลของระบอบเผด็จการซ่อนรูปนี้ ก็ไม่ได้ให้คุณประโยชน์แก่ประชาชนแต่ประการใด
ด้วยเหตุดังกล่าวทั้งหมด ปวงชนชาวไทยทั้งหลาย จึงได้ลงนามต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ในการวางหลักการสำหรับการก้าวไปข้างหน้าของประเทศไทย
โดยมีรายละเอียดที่จักขอประกาศให้คนไทยรุ่นปัจจุบันและรุ่นลูกหลานสืบต่อไป เพื่อได้รับรู้ และรับเอาไว้เป็นหลักการสำหรับการจัดการบริหารอำนาจอธิปไตยและกลไกของรัฐไทย สืบต่อไปชั่วกัลปาวสานต์ ดังนี้
  1. พลเมืองทุกหมู่เหล่าของชาติไทย ต้องอยู่รวมกันแบบรัฐชาติเดียว และถึงแม้จะมีความหลากหลายด้านชาติพันธุ์กำเนิด ศาสนาหรือลัทธิความเชื่อ ฯลฯ คนทุกหมู่เหล่าต้องได้รับการค้มครองสิทธิและเสรีภาพโดยรัฐ ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ด้วยมาตรฐานความเป็นธรรม เพื่อสร้างความผาสุกร่วมกัน โดยไม่มีการแตกแยกหรือล่วงเกินระหว่างกัน หรือใช้ความรุนแรงเหนือกฎหมาย สำหรับการแก้ปัญหาหรือข้อขัดแย้งใด ๆ ทั้งสิ้น
  2. ในกิจการปกครองประเทศทุกด้าน จักต้องผ่านกระบวนการของอำนาจอธิปไตย ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนอย่างสมบูรณ์ ปราศจากการแทรกแซง หมกเม็ดโดยสถาบันหรือองค์กรใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งในตัวบทกฎหมายและการปฎิบัติ
  3. บ้านเมืองต้องได้รับการประกันให้เกิดเสรีภาพและความเสมอภาค บนบรรยากาศแห่งความเป็นพี่น้องภายใต้วัฒนธรรมอันดีงามของไทย และวัฒนธรรมใหม่อันเป็นอารยะสากล ที่เคารพหลักสิทธิมนุษยชนสากล พร้อมกับความเป็นนิติรัฐ ที่ทุกคนเท่าเทียมกันในฐานะมนุษย์และพลเมืองภายใต้กฎหมาย
  4. การพัฒนาของประชาธิปไตยไทย ต้องให้ผ่านขั้นตอนทางประชาธิปไตยภายใต้กฎหมาย ที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญที่เป็นไปตามเจตนารมย์ในปฎิญญkนี้ Fดยไม่มีข้อยกเว้นหรือ การบิดเบือนในรูปแบบใด ๆ ทั้งสิ้น อำนาจและผลประโยชน์ต้องเป็นของและเป็นไปเพื่อประชาชนโดยแท้จริง
  5. สถาบันกษัตริย์ต้องหลุดพ้นจากการเกี่ยวข้องกับอำนาจอธิปไตย หรือมีอิทธิพลใด ๆ ต่อระบบหรือกลไกทุกอย่างในสังคมอย่างสิ้นเชิง และจะมีตัวแทนใด ๆ ไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตย และกิจกรรมของประชาชนไม่ได้โดยเด็ดขาด ระบบทุนผูกขาดและกลไกอันไม่เป็นประชาธิปไตยที่ครอบงำประเทศ ต้องถูกทดแทนด้วยระบบที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากร การบริหารเงินภาษี และจากการใช้อำนาจของตัวแทนประชาชนสูงสุดด้านบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ
  6. การปฎิวัติหรือรัฐประหารโดยกำลังกองทัพเป็นสิ่งต้องห้าม จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกด้วยเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้ก่อการจะต้องโทษในฐานะกบถ และไม่สามารถอ้างการเป็นรัฐถาธิปัตย์ ด้วยวิธีหรือเหตุใด ๆ ทั้งสิ้น
  7. การยุบพรรคการเมืองจะกระทำไม่ได้ด้วยวิธีการใดทั้งสิ้น และการตั้งกรรมการอิสระใด ๆ จะกระทำโดยบุคคลผู้ใช้อำนาจ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมิได้ ผู้เข้ารับตำแหน่งทางการเมืองและกิจการของรัฐ กินเงินเดือนภาษีประชาชน ที่มียศขั้นตั้งแต่ระดับเก้าหรือเทียบเท่าขึ้นไป ต้องผ่านการตรวจสอบและยอมรับ จากตัวแทนจากรัฐสภาก่อนรับตำแหน่ง
  8. ประมุขสูงสุดผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทั้งสามฝ่าย ต้องมาโดยการเลือกตั้ง ของประชาชนโดยทางตรงหรือทางอ้อมเท่านั้น จะใช้วิธีการอื่นใดมิได้ และบุคคลในตำแหน่งสำคัญ ๆ ต้องได้รับการตรวจสอบ และอนุมัติจากตัวแทนประชาชนก่อนเสมอ
  9. สื่อสารมวลชน คือแสงไฟที่ส่องสว่างสะท้อนภาพความจริงของสังคม เพื่อเสริมให้ประชาชนและกลไกต่าง ๆ ในประเทศเกิดปัญญา สื่อสารมวลชนที่ดีต้องถือหลักแห่งการเสนอข้อมูลจากทุกด้าน ไม่มีอคติ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือถูกกลุ่มผลประโยชน์ใดบงการ รัฐจักต้องประกันความมีเสรีภาพในการนำเสนอข้อมูล แต่ให้มีการควบคุมโดยกลไกของรัฐและประชาชน ที่ถือจรรยาบรรณอันชัดเจนเป็นหลัก สำหรับการพิจารณา ควบคุม และกำกับการทำงานของสื่อ
  10. การศึกษาและการวิจัยเพื่อพัฒนาบุคลากรและประเทศชาติ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับการเป็นรากฐาน และหัวใจของการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และท้นต่อโลก รัฐจะต้องเน้นการจัดการศึกษาและส่งเสริมการวิจัยให้มากกว่าการลงทุนด้านการ ทหาร
  11. ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศเป็นหลัก ไม่มีหน้าที่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการพลเรือน ทหารเป็นอาชีพที่มีเกียรติและบุญคุณกับประเทศ ต้องมีการพฤติกรรมให้สมกับเกียรติ แต่ทหารกินเงินเดือนจากประชาชน ดังนั้น ทหารจะต้องรับใช้ประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่กลุ่มผลประโยชน์กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ทหารต้องอยู่ใต้การบังคับบัญชา ของนายกรัฐมนตรี หรือประมุขฝ่ายบริหาร ผู้เป็นจอมทัพในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งด้วย และการจะประกาศศึกใด ๆ กับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องได้รับการเห็นชอบของประมุขสามฝ่าย คือฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลากรก่อน
  12. ตำรวจ เป็นผุ้ดูแลใกล้ชิดกับประชาชน และพิทักษ์ภัยให้ประชาชนในทุกอนูของประเทศ อาชีพตำรวจเป็นอาชีพมีเกียรติ และควรได้รับเกียรติเช่นเดียวกับทหาร แต่ผู้สั่งการตำรวจในทุกอำเภอและจังหวัด ต้องได้ผ่านการเลือกตั้งโดยตรง โดยประชาชน
กฎหมายรัฐธรรมนูญ และการตรากฎหมายอื่นใด ตลอดจนการดำนเนินการของรัฐ และหน่วยงานรัฐใด ๆ จักขัดแย้งหรือทำให้เกิดผลอันขัดกับหลักเบื้องต้นนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด เจตนารมย์ของประชาชนไทยผู้ได้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐานต่อท้ายปฎิญญาฉบับนี้ี้ ถูกร่างและขัดเกลาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ของตัวแทนปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า เพื่อวางรากฐานประเทศ เพื่อการวัฒนาถาวรของชาติ และเพื่อให้สืบเป็นมรดกถาวรไปยังลูกหลานไทยในอนาคต เพื่อเป็นหางเสือและเสาหลักสำหรับการพัฒนาประเทศตลอดไปตราบนานแสนนาน
เมื่อได้อ่านทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระข้างต้น และเห็นด้วยกับข้อความดังกล่าวทุกประการแล้ว บรรดาข้าพเจ้าทั้งหลาย จึงขอลงลายมือชื่อไว้เป็นประจักษ์พยานสืบต่อไป 
ปวงชนชาวไทย



Missions: พันธกิจ มดแดง


พันธกิจมดแดงแต่ละด้าน จะต้องมีรายละเอียดสำหรับการดำเนินงานระยะสั้นหรือเร่งรัด
ระยะกลาง และระยะยาว โดยเป้าหมายกำหนดไว้ว่า ห้าปีต่อจากนี้ ประเทศไทยจะต้องเป็นเสรีประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์
พร้อมกับความเข้มแข็งและพัฒนาการของแต่ละด้านที่มีผลงานเสริมกันอย่างเป็น ระบบ วิธีการแต่ละด้านอาจจะหลากหลายกันไป
แต่จะต้องเน้นสิ่งเหล่านี้เป็นหลักเบื้องต้น คือ
  1. ศึกษาและถกปัญหา และหาสาเหตุและเงื่อนไขที่ต้องจัดการ
  2. กำหนดเป้าหมายและระยะเวลาสำหรับแต่ละด้านที่ทำได้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหญ่
  3. หาผู้ดำเนินงานและกำหนดวิธีดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลตามโครงงาน โครงการ และยุทธศาสตร์ใหญ่ในระดับสูงขึ้นไป
  4. ประสานงานและหาแนวร่วม พร้อมดำเนินงานเป็นขั้นตอน
  5. กำหนดวิธีประเมินผล และปรับปรุงขบวนการเพื่อกิจกรรมในอนาคต
พันธกิจมดแดง จะต้องครอบคลุมทุกด้านสำคัญ ๆ และมีรายละเอียดที่เพียงพอสำหรับแต่ละด้านต่อไปนี้ 1. ภารกิจทางการเมืองและรัฐสภา (รวมถึงการรับมือการเลือกตั้งที่จะมาถึง การร่างรัฐธรรมนูญ) * กดดัน สส. ไม่ให้ย้ายพรรค * ทำงานร่วมกับ สส. เพื่อไทยในการหาเสียงเลือกตั้ง ปรับปรุงกฎหมาย และบริหารประเทศ * เตรียมการสร้างนักการเมืองน้ำดี หรือแม้แต่การสร้างพรรคมดแดง (พรรคแดง) * เตรียมสร้างเครือข่ายติดตามศึกษากลศึกทรราช และเตรียมการป้องกันการโกงเลือกตั้ง และการละเมิดหลักประชาธิปไตย * สร้างกระแสร่างรัฐธรรมนูญและเผยแพร่แนวคิดเสรีประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง * ประจาน ปชป. พรรคร่วม และลัทธิอำมาตย์ในทุกทางเมื่อพวกเขาทำตัวขัดหลักประชาธิปไตย * เผยแพร่ประชาธิปไตยและกระแสแดงทุกรูปแบบ * ชี้นำและกดดันให้พรรคการเมืองตอบสนองอุดมการณ์แดง ไมใช่นำมวลชนไปสู่เกมอำนาจภายใต้ระบอบพิษ * สร้างฐานเสียงที่นับหัวได้ เพื่อนำไปเป็นการต่อรองทุกรูปแบบกับนักการเมือง * เตรียมการสำหรับการลงประชามติเปลี่ยนระบอบและแก้กฎหมายทุกชนิดในอนาคต * เตรียมการป้องกันรัฐบาลและรัฐสภาของประชาขน คิดมาตรการตอบโต้กิจกรรมใด ๆ อันขัดกับหลักเสรีประชาธิปไตย * ฯลฯ 2. ภารกิจด้านสังคมและศาสนา * สร้างกระแสสังคมด้านที่เป็นอารยะ แก้ปัญหาอันสะสมจากวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ด้านลบ เสริมกระแสสำหรับการรักษาและสร้างวัฒนธรรมที่ดี * กระตุ้นให้ศาสนามามีบทบาทแก้ปัญหาบ้านเมือง สังคม และวัฒนธรรมมากขึ้นและได้ผลมากขึ้น * สะท้อนปัญหาสังคมและศาสนาอันเป็นผลมาจากระบอบที่เป็นพิษ * รณรงค์ต่อต้านวัฒนธรรมอันเป็นพิษทุกรูปแบบ * รณรงค์ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดี มีเหตุผล เป็นอารยะ และไม่ขัดต่อหลักเสรีประชาธิปไตยและสิทธิพื้นฐานความเป็นมนุษย์ * ดูแลให้คนต่างศาสนาหันมามองปัญาการเมืองและแก้ไขร่วมกัน * จัดเวทีวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทย และแนวทางการสร้างสังคมไทยหลังการเป็นเสรีประชาธิปไตยแล้ว * เน้นการเข้าหาเยาวชนและคนที่ยังถูกกดให้อยู่ในสันดานอันไม่เป็นอารยะ เพื่อช่วยเหลือปรับเปลี่ยน * ทำโครงการเพื่อขอทุนสนับสนุนหรือทำงานร่วมกับองค์กรพัฒนาระดับประเทศและนานาชาติ * ฯลฯ 3. ภารกิจด้านการศึกษา * เข้าถึงครูบาอาจารย์แล้วกลืนให้เป็นแดง * เข้าหาสถาบันการศึกษาแล้วเผยแพร่แนวทางเสรีประชาธิปไตย * ประจานสถาบันการศึกษาที่รับใช้เผด็จการทรราช ทรราษฎร์ * สร้างเครือข่ายการศึกษานอกระบบ หรือ life-long learning สำหรับประชาชนทุกหมู่เหล่า * สร้างห้องสมุดแดง * เน้นการเผยแพร่ข้อมูลไปสู่สถาบันการศึกษาทุกระดับ อย่างเป็นระบบ มีคนรับผิดชอบแบ่งย่อยลงไปถึงระดับตำบลและหมู่บ้าน * ฯลฯ 4. ภารกิจด้านเศรษฐกิจและการคลัง * สร้างเครือข่ายเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนของมดแดง เอากำไรบางส่วนเข้าเป็นงบประมาณมดแดง * กระจายข้อมูลความเสียหายทางเศรษฐกิจและปัญหาการคลังไปยังทุกครัวเรือน พร้อมอธิบายสาเหตุ * สร้างกองทุนช่วยเหลือมดแดงหลายรูปแบบ หลายระดับ * ดูแลปัญหาเศรษฐกิจ เหมือนรัฐบาลเงา ป้อนข้อมูลด้านการเงินการคลังต่อสาธารณะชน ประจานรัฐบาลชั่วและนายทุน * สร้างอาชีพให้มดแดง พร้อมกับให้สถานที่ทำงานเป็นแหล่งผลิตมดแดงไปด้วย * ฯลฯ 5. ภารกิจด้านกฎหมายและความยุติธรรม * ตั้งทีมกฎหมายคอยให้ความรู้และช่วยเหลือมดแดง ทั้งเชิงรุกและรับ * ประจานการละเมิดสิทธิประชาชน และการใช้กฎหมายอย่างไม่ถูกต้อง * สร้างทีมกฎหมายระดับท้องถิ่น สานเครือข่ายกับส่วนกลาง * ดำเนินการฟ้องร้องผู้ทำผิดอย่างไม่เหนื่อยหน่าย ต้องมีทีมงานนำคดีความไปไว้ในศาลให้มากที่สุด อย่าให้คนชั่วลอยนวล * ฯลฯ
6. ภารกิจด้านสื่อสารมวลชน มวลชนสัมพันธ์และการสร้างเครือข่าย (รวมถึงร่วมมือกับกลุ่มแดงต่าง ๆ) * ประสานกับแดงทุกรูปแบบ (บนดิน ใต้ดิน) * แย่งพื้นที่สื่อ แล้วนำเสนอสิ่งที่จะดึงมวลชนสีอื่น * สร้างเครือข่ายมดแดงทุกระดับ * เผยแพร่ใบปลิว ซีดี แผ่นพับ เสื้อผ้า สติ๊กเกอร์ ฯลฯ ให้แดงทั่วแผ่นดิน แล้วให้มดแดงข่าวสาร ช่วยนำเสนอกันเป็นเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง * นำอาวุธทางปัญญาไปป้อนสุ่มวลชนสีอื่นอย่างมีเป้าหมาย มีระบบ หวังผลได้ เพื่อกลืนพื้นที่ข้อมูลและข่าว และกลืนประเทศไทยให้เต็มไปด้วยมดแดง * ในวันสำคัญ เตรียมการจัดการกับสื่อที่เป็นกระบอกเสียงให้เหล่าทรราชย์ * ฯลฯ 7. ภารกิจด้านการทหารและการต่อต้านการรัฐประหาร * เตรียมการสร้างเครือข่ายและคิดแนวทางต้านรัฐประหาร * เข้าหาทหาร ดึงทหารตำรวจมาเป็นพวก * กดดันไม่ให้นายทหารทำร้ายประชาชน * เข้าหาลูกหลานทุกคนที่เป็นทหาร ตำรวจ ปลูกฝังความคิดใหม่ * สนับสนุนให้เยาวชนเรียนรู้ประชาธิปไตยเพื่อฉีดวัคซีนไม่ให้ไปถูกล้างสมองในโรงเรียนเตรียมทหาร * เก็บข้อมูลนายทหารให้พร้อม หากถึงเวลาที่พวกเขาทำร้ายประชาชน จะได้จัดการอย่างตรงเป้า * เอานายทหารทุกระดับมาทำงานให้ขบวนการแดง * ฯลฯ 8. ภารกิจด้านการผลิตอาวุธทางปัญญา * ผลิตและเผยแพร่แนวคิดแดง ความจริง และความชั่วของฝ่ายมารอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมาย และวัดผลได้ * ช่วยเหลือแนวทางของแดงอื่น ๆ ทั่วโลก * ตั้งทีมงานวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูบต่าง ๆ เป็นฐานข้อมุล เพื่อนำเอามาใช้ประโยชน์หลาย ๆ ด้าน * จัดรวบรวมข้อมูล และสร้างห้องสมุดแดงเพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการนำไปใช้ในคดีความ และการพัฒนาประเทศในอนาคต * ฯลฯ 9. ภารกิจด้านกิจการนานาชาติและต่างประเทศ * สร้างเครือข่ายแดงทั่วโลก * ประสานกิจกรรม ทำให้โลกเห็นว่าเราไม่เอาความตอแหล * ประจานทรราช และเผยแพร่ความจริงสู่สายตาชาวโลกอย่างต่อเนื่อง * อธิบายและทำความเข้าใจกับมิตรประเทศทั่วโลก * ล็อบบี้ผู้นำระดับสูงของชาติสำคัญ ๆ * ฯลฯ 10 ภารกิจก่อตั้งเครือข่ายมดแดงเป็นสถาบันทางการเมืองส่งเสริมประชาธิปไตยในอนาคต * ตั้งองค์กรที่มีองค์ประกอบอย่างสมบุรณ์ เป็นสถาบันการเมือง (เพื่อไทยสนใจไหม นี่คือโอกาสที่ดีเยี่ยมแล้วครับ รายละเอียดการดำเนินงาน ต้องละเอียด….)
  • ตั้งกลุ่มก้อนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง อาจจะพัฒนาไปสู่การบริหารทางการเมืองภาคประชาชน เช่น สภาประชาชน สภากาแฟ หรือแม้แต่พรรคการเมืองปฏิวัติ
ฝากให้ช่วยกันคิดต่อแต่ละข้อครับ พอได้แนวกว้าง ๆ แล้ว แต่ละภารกิจก็ต้องเขียนเป็นโครงงานต่าง ๆ
เพื่อนำไปปฎิบัติให้เกิดผลต่อไปด้วย จะเห็นได้ว่า เราต้องการทีมงานหลายทีม หรือหลายทัพนั่นเอง แต่ละทัพ
ก็ต้องมีแม่ทัพคอยดูแล และทีมงานคอยช่วยเหลือ

สิบด้านนี้ ต้องได้แม่ทัพด้านละสี่ห้าคน ปรึกษาชุมนุมหาแนวทางและผลักดันให้เกิดการปฎิบัติด้วยเลย
โดยทั้งสิบด้านต้องประสานแผนกัน ให้ได้ผลระยะสั้น กลาง และยาว ที่สอดคล้องและนำไปสู่ชัยชนะที่เบ็ดเสร็จต่อไป




Commandments: บัญญัติสิบประการ "มดแดงล้มช้าง"




The Ten Commandments of Red Ants' Revolution
ในรายการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 พฤษภาคม 2554) ผมได้นำเสนอแนวทางสำหรับการปฎิบัติตัวของพี่น้องเสื้อแดง บนรากฐานความเชื่อว่าเกมการเลือกตั้ง เป็นแค่กิจกรรมหนึ่งในการเดินเข้าสู่โค้งอันตรายของประเทศไทย เพราะแก็งค์ทรราชย์จะไม่มีทางจะยอม และมีดัชนีบ่งชี้ที่สำคัญ ๆ เช่น การจับแกนนำแดงสยาม การถอนประกันคุณจตุพรและคุณนิสิต การเร่งคดีหมิ่น การสังหารนักการเมืองเสื้อแดง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ ชี้ให้เห็นว่า แนวรบรัฐสภาโดยพรรคเพื่อไทยที่เป็นหัวหอกให้เสื้อแดงนั้น จะต้องไปพบกับเล่ห์เหลี่ยมทุกด้านของฝ่ายมาร ที่จะงัดออกมาทำความชั่วร้าย และนำไปสู่ความเสียหาย รุนแรง และการติดขัด และเมื่อคนเสื้อแดงถึงจุดหมดความอดทน การเผชิญหน้าจะเกิดขึ้น เพราะต่อให้ได้เป็นรัฐบาล เสื้อแดงก็จะไม่ยอมหยุดการต่อสู้ และฝ่ายตรงข้ามก็จะไม่หยุดเช่นกันในอันที่จะทำลายการเติบโตของเสรี ประชาธิปไตย ความหวังในการสร้างประเทศผ่านรัฐสภาอย่างเบ็ดเสร็จ จึงเป็นสิ่งริบหรี่ สิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นในภาวะเช่นนี้ก็คือ ประชาชนต้องเข้มแข็ง ประชาชนต้องผันตัวเองเป็นมดแดง ที่แต่ละตัวอาจจะเหมือนไม่มีพิษสงฆ่าช้างได้ แต่เมื่อเราทุกคนเชื่อว่าเราจะล้มช้างได้ หากเรารวมตัวกัน หากเราพัฒนาตัวเอง พัฒนาความเป็นกลุ่มก้อน และพัฒนาศักยภาพทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และยุทธวิธี บัญญัติสิบประการต่อไปนี้ คือสิ่งที่จะเตรียมพี่น้องเสื้อแดงให้กลายเป็นมดแดง ที่จะลุกมาล้มช้างได้ในวันที่สิ่งต่าง ๆ ในระบอบตอแหลมันไม่ทำงานอีกต่อไป หรือเมื่อเราถึงทางตัน และต้องก้าวไปสู่การเผชิญหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
* เรียนรู้ * ริเริ่ม * รวมใจ * รื่นเริง * รุกรับ * ระวัง * ร้องเรียน * รังควาน * รัก * รุกฆาต

1. เรียนรู้

ปัญหาของบ้านเมืองเราที่มีปมอันยุ่งเหยิง มีกลุ่มผลประโยชน์ร่วมมือ โยงใย และวางแผนกระทำการมานาน และยิ่งเพิ่มดีกรีความเลว เล่ห์กล ความรุนแรง และอันตรายต่อบ้านเมือง พร้อมกับการสร้างภาพที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากสับสน เบื่อหน่าย เฉื่อยชา หรือตามืดบอด และนับวันต่อแต่นี้ไป ดีกรีหรือระดับของมันจะยิ่งเพิ่มขึ้น ดังนั้น ประชาชนคนไทยที่ห่วงใยบ้านเมือง อยากเข้าใจปัญหา และอยากมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหา จะต้องหมั่นเรียนรู้ ศึกษา ทำความเข้าใข และแลกเปลี่ยนข้อมูล ความคิดเห็น และข่าวสารความรู้อยู่เสมอทุกวัน สิ่งที่ประชาชนคนไทยควรเรียนรู้หรือทำความเข้าใจ รวมถึงสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ประจำวันและผลประโยชน์ในฐานะพลเมือง นโยบายของราชการและพรรคการเมือง ข่าวสารบ้านเมือง ฯลฯ ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังไม่มีวัฒนธรรมบริโภคความรู้เหมือนสังคมตะวันตก และห้องสมุดชุมชนยังไม่ได้รับการพัฒนาดีพอ ผู้ที่มีความรู้และเวลา เช่น นิสิตนักศึกษา ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ พระสงฆ์และนักบวช ควรที่ยื่นมือออกไปช่วยเหลือในการให้ความรุ้และการศึกษาแก่ชุมชนรอบ ๆ ตัว

2. ริเริ่ม

ริเริ่ม หมายถึงการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ดีกว่า สร้างสรรค์กว่า ได้ผลดีกว่า ตรงประเด็นปัญหาในชีวิตมากกว่า เสมอในทุกวันใหม่ สิ่งเก่า ๆ ที่เคยกรทำ ควรตั้งคำถามและหาทางปรับปรุงเสมอ การต่อสู้ของคนเสื้อแดง ต้องเผชิญกับความซับซ้อนของกลไกอำนาจ การเคลื่อนไหว เล่ห์กล และข้อมูลข่าวสารที่สับสน ดังนั้น คนเสื้อแดงและประชาชนที่อยากพัฒนาประเทศไทยให้พ้นจากวงจรอุบาทว์ จะต้องหัดคิดใหม่ ทำใหม่ และหาทางที่สร้างสรรค์ การบ่น ด่า ประนาม หรือการทำกิจกรรมแบบเดิม ๆ หากผ่านมาแล้วสี่ห้าปีแล้วไม่ได้ผล หรือได้ผลแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาใหม่ได้ ก็ควรได้รับการทบทวน และการพูดคุยเพื่อระดมสมอง เพื่อสิ่งใหม่ ความคิดใหม่ และกิจกรรมใหม่ ควรเกิดขึ้นในระหว่างผู้คนรอบข้าง

3. รวมใจ

หากต้องการให้ประเทศไทยเปลี่ยนไปสุ่ภาวะที่มีเงื่อนไขที่ดีสำหรับการเป็น ประเทศที่ดีดังฝัน มีประชาชนเป็นหัวใจของการพัฒนา มีกิจกรรมการเมืองที่เป็นของประชาชน ดำเนินการโดยประชาชนผ่านตัวแทนของพวกเขาอย่างแท้จริง และเพื่อผลอันมีประชาชนเป็นศุนย์กลาง ประชาชนจะต้องมีอำนาจเพียงพอสำหรับการต่อรองและคานอำนาจกับกลุ่มผลประโยชน์ อื่น ๆ ที่รวมหัวกันยึดเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติ อันมีทรัพยากรต่าง ๆ และเงินภาษีของประชาชน ไปแบ่งกันอย่างไม่เกรงใจประชาชน กลุ่มเหล่านี้มีทหารตำรวจ นักธูรกิจกินรวบ เช่นธนาคารและธุรกิจที่มีอำนาจระดับสูงหนุนอยู่ เจ้าหน้าที่รัฐอันรวมถึงข้าราชการและเจ้าหน้าที่ด้านขบวนการยุติธรรม สื่อสารมวลชนที่ขายจิตวิญญาณ นักการเมืองที่ทรยศประชาชน พวกนี้ได้กระทำการอันชั่วร้ายต่อบ้านเมืองและประชาชน ดังที่เราได้เห็นมาแล้วในช่วงสี่ห้าปีนี้ พวกเขาทำอะไรได้ดั่งใจ บิดเบือนหลักการ เลี่ยงกฎหมาย โกหกตอแหล สร้างสองมาตรฐาน กดขี่ข่มเหงประชาชนที่ต่อต้านและเรียกร้องสิทธิ ถึงขนาดมีการเข่นฆ่าประชาชนอย่างเย้ยกฎหมายและศีลธรรม การร้องขอไม่มีทางเป็นไปได้ การรอให้เขาลดหย่อนการทำบาปไม่ใช่เรื่องเป็นไปได้ ดังนั้น ประชาชนทุกหมู่เหล่าจะต้องเข้าใจในความจำเป็นของการตื่นและลุกมารวมตัวกัน เป็นกองกำลังประชาชน ที่มีทั้งปริมาณและคุณภาพที่เพียงพอที่จะต่อต้าน ชัดขืน เรียกร้อง บังคับ จัดการ และใช้สิทธิตามกฎหมายทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นใน ที่สุด อนึ่ง การรวมตัวกันเฉพาะคนเสื้อแดง แบ่งสี แบ่งแยกกับหมู่คนไทยร่วมชะตากรรมด้วยกัน แล้วไม่ได้เพิ่มยอดจำนวน หรือขยายไปรับเอาคนไทยที่ยังไม่ตื่นรู้เข้ามาร่วมขบวนการ จะทำให้เราไม่สามารถต่อสู้เพื่อช่วงชิงสิทธิในการแบ่งประโยชน์อย่างสมควรจาก กลุ่มผลประโยชน์อื่น ๆ ที่กล่าวข้างต้น วันนี้ คนไทยจะต้องพูดคุย สร้างกัลยาณมิตรกับคนรอบข้าง แบ่งปันข้อมูลและทำความเข้าใจ เพื่อสร้างกลุ่มคนตาสว่างทั่วแผ่นดิน นับตังแต่ระดับหมุ่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด เพื่อประสานกับกลุ่มต่าง ๆ ทั่วประเทศ และสร้างกิจกรรมร่วมกันให้ทันการณ์สำหรับการแตกหักกับกลุ่มอำนาจโบราณที่ ครองอำนาจอยู่ชณะนี้ การสร้างองค์กรเช่น สภาประชาชน หรือชื่ออื่นใดที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนทุกหมู่เหล่า เพื่อช่วยเสริมพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่ถูกกลุ่มผลประโยชน์ อื่น ๆ กดไว้ ในความพยายามสร้างชาติใหม่

4. รื่นเริง

การต่อสู้ของประชาชนเป็นสิ่งชอบธรรม เพราะประชาชนเรียกร้องและต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อเสรีประชาธิปไตย และสิ่งดีงามของบ้านเมืองที่เป็นอารยธรรมอันน่าภูมิใจและสุขใจที่ได้อยู่ ร่วมกันของคนไทยทุกหมู่เหล่า การอยู่ในร่องรอยที่ถูกกฎหมายและศีลธรรมจรรยา จะทำให้เราอยุ่ได้อย่างเป็นปกติสุข ร่มเย็น และไม่ทุกข์ร้อนเหมือนบรรดาผู้ที่ก่อกรรมที่เป็นบาป เพราะผลกรรมจักตามทันพวกเขาเสมอ ไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้น ประชาชนต้องสู้ไป แล้วต้องทำใจให้เบิกบานให้เป็นนิตย์ เราอาจจะต้องจริงจังและดุดันในบางกรณี ในบางเวลา แต่เราควรทำตัวให้มีจิตใจผ่องใส ไร้กิเลส ไร้สิ่งขุ่นมัว ใช้สติในการผลักดันการก้าวไปข้างหน้า การแก้ปัญหามีหลายทาง และมีทางที่ดีกว่าเสมอ และทางเหล่านั้น หากเป็นไปได้ ต้องให้ถูกหลักกฎหมายและศีลธรรมเสมอ เมื่อทำได้ในแนวทางนี้แล้ว เราก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ร้อนหรือเร่าร้อน มุ่งมั่นแก้ปัญหาด้วยสติ แล้วทำตัวให้เบิกบาน น่าเลื่อมใส น่าอิจฉา น่าคบ น่าสนับสนุน คนเสื้อแดงเรา ไม่จำเป็นต้องโกหก็ดูดีได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจเถื่อนก็มีพลังได้ ดังนั้น จงต่อสู้ด้วยสติและปัญญา ด้วยความผ่องใสของจิตวิญญาณ แล้วเราจะสำเร็จแน่นอน

5. รุกรับ

ในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจและความได้เปรียบกับแก็งค์ที่ปล้นอำนาจและ ฉกฉวยผลประโยชน์ แล้วสร้างเครือข่ายอำนาจทรราชย์อย่างยิ่งใหญ่นั้น เหมือนเราเป็นมดแดงไปสู้กับช้างสาร จะรวมพลยกกองมดไปยืนเผชิญหน้ากัช้างตรง ๆ และหนุนเนื่องกันไปทื่อ ๆ ไม่มีหยุด ไม่มีถอย ไม่มีหลอกล่อ ย่อมไม่ได้ เพราะรังแต่จะถูกงวงช้างฟาดและเท้าเหยียบย่ำตายเป็นเบือ การต่อสู้กับอำนาจมืดอันยิ่งใหญ่และอันตรายนี้ เราต้องมีแผนสำหรับการหยั่งเชิง ถอย หลบ และรุก ตามจังหวะที่เหมาะสม ดังนั้น การวางแผนจะต้องอยุ่บนพื้นฐานการวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรอบคอบ และระดมสมองเพื่อให้เกิดแนวทางที่รอบคอบ หลากหลาย และได้ผลดีที่สุด ในกรณีของ นปช. ที่เราเคยฝากความหวังไว้มากมาย มาบัดนี้ เราได้รับทราบแล้วว่า บางจังหวะ เราเร่งให้ได้ดั่งใจไม่ได้ เพราะแค่ขยับก็จะถูกสกัดและทำลายโดยฝ่ายตรงข้าม เราต้องเข้าใจข้อจำกัดของฝ่ายเรา และดูจังหวะของฝ่ายตรงกันข้าม แล้วก็ปรับยุทธศาสตร์ระดับต่าง ๆ และยุทธวิธีของขบวนการเสื้อแดงให้ทัน

6. ระวัง

เราทราบดีอยู่แล้วว่า อำนาจเถื่อนที่แก้งค์ผู้ปกครองเถื่อนที่ครอบงำเมืองไทยในช่วงสี่ห้าปีนี้ ทั้งบาปช้า หน้าด้าน ตอแหล และโหดร้ายเพียงใด การต่อสู้กับกฎหมายและอำนาจรัฐเป็นสิ่งที่ยากอยู่แล้ว แต่การต่อสู้กับอำนาจกระบอกปืน และกลไกสื่อ ศาล คนพาลและพรรคการเมืองเหี้ย ๆ นั้น พวกเราต้องเสี่ยงกับการถูกรังแกและฆ่าฟันอย่างง่ายกว่าปกติ การต่อสู้ของพี่น้องประชาชนคนมือเปล่า จะต้องระมัดระวัง ยางกิจกรรมและความคิดต้องซ่อนไว้ใต้ดิน บางกิจกรรมต้องรอเวลา บางเรื่องต้องทำกันแบบไม่ให้ตั้งตัว เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือสะท้อนกลับที่เป็นอันตรายกับเรา โดยได้ไม่คุ้มเสีย ขอให้พี่น้องสู้อย่างมีสติและมีเชิงเสมอ รุกรับให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เตรียมการให้พร้อม และทำทุกอย่างด้วยความมุ่งมั่น ไม่ท้อแท้ ไม่หย่อนยาน และรอบคอบเสมอ

7. ร้องเรียน

ด้วยเหตุที่ฝ่ายที่ยึดอำนาจประชาชนไปครองอย่างไม่ชอบธรรม แล้วทำบาปกรรมเพื่อสานต่ออำนาจ แล้วมีการทำผิดกฎหมายและศีลธรรมมากมาย สิ่งที่ประชาชนทุกระดับควรทำก็คือ ต้องร้องเรียน ฟ้องร้อง และประนามการกระทำของสมาชิกของแก็งค์กลืนเมืองทุกระดับ คนผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกฟ้องร้องด้วยกฎหมาย คนผิดศีลธรรมก็ต้องได้รับการประนามหรือประจานต่อสาธารณชน ดังนั้น การฟ้องร้อง ร้องเรียน หรือประนาม เพื่อให้เกิดกระแสแห่งการแบ่งแยกคนดีคนเลวในสังคม ให้พี่น้องทั่วประเทศได้เห็นผลเสียของวงจรอุบาทว์ พี่น้องที่เป็นนักกฎหมายหรือรุ้สึกว่าสิ่งที่ฝ่ายขบถต่อประชาชนได้ทำผิด กฎหมายหรือศีลธรรม จะต้องสร้างคณะทำงานเพื่อติดตามฟ้องร้องดำเนินคดี เอาผิด หรือประนามหรือประจานทุกบาปกรรมของพวกเขา หากการกระทำเดี่ยว ๆ เป็นการเสี่ยง ก็ให้ทำกันในนามคณะหรือกลุ่มบุคคล การกระทำภายใต้ข้อบัญญัตินี้ จะทำให้คนชั่วต้องได้รับผลกรรม ต้องรู้สึกถึงความเดือดร้อนและผลบาปกรรมของพวกเขาในชาตินี้ ให้หลาบจำ ให้เป็นบทเรียนกับพวกเขา วงศ์ตระกูล และไม่ให้เป็นบทเรียนแก่สังคมทั่ว ๆ ไปอีกด้วย

8. รังควาน

ฝ่ายตรงข้ามพยายามใช้การกดขี่ กำหราบ ทำร้าย กดดัน และแม้แต่การฆ่าฟัน ดังนั้น สิ่งที่เราทำ ต้องยกระดับมากกว่าการร้องเรียนในข้อเจ็ด ประชาชนมีสิทธิป้องกันตนเอง ปกป้องตัวเองอันตราย และตอบโต้ตามสิทธิอันชอบธรรม การรังควาน คือการทำให้คนที่ทำร้ายต่อประชาชน คนที่คดโกง คนที่ใช้อำนาจเถื่อนเป็นพิษภัยกับสังคม อยู่ไม่เป็นสุข เป็นการยกระดับมาจากการร้องเรียน เป็นเชิงรุกมากกว่าการร้องเรียน การทำให้คนทำบาปรู้สึกว่าเราไม่พอใจ ให้เขารู้สึกผลบาป อย่างน้อยก็ทางใจและทางกายในกรอบที่สมควร และการลงโทษพวกเขาในทุกทางที่เป็นไปได้ ในกรอบกฎหมายและศีลธรรม ประชาชนจะต้องพยายามทำอย่างเป็นระบบ โดยไม่กลัว ไม่ประมาท ไม่ท้อ ไม่เป็นบาปที่หยาบ และไม่หยุดหย่อน จนในที่สุด สมุนก๊กมารจะไม่กล้าทำผิดเพิ่มเติม หรือไม่กล้าทำได้ดังใจ และไม่กล้าทำรุนแรงกับประชาชนอีก จนในที่สุด ก็จำต้องยอมให้กับประชาชนในที่สุด นำไปสู่ชัยชนะที่เด็ดขาดของประชาชนในที่สุด

9. รัก

ในขณะที่เราต้องต่อสู้ เพราะหากไม่สู้ก็ไม่มีทางได้มาซึ่งสิ่งที่สมควรเป็นของประชาชน และเราต้องรุนแรงเมื่อจำเป็นในกรอบกฎหมายและศีลธรรม แต่เราก็ควรไม่ลืมว่า คนที่เรากำลังต่อสู้ด้วยนี้ เป็นพี่น้องร่วมแผ่นดิน เป็นเหมือนพี่น้องร่วมชายคา และบ้านเมืองเราก็เป็นเหมือนบ้านหลังเดียวกันที่เราทุกคนเป็นเจ้าของ จะทำร้ายกันเอง ทำลายข้าวของ หรือเผาบ้าน ก็จะตกเป็นภาระของพวกเราทั้งหมด เราต้องไม่ลืมว่า เราเป็นสัตว์ร่วมโลก ที่ผิดพลาดได้ ที่มีทุกช์ร่วมกัน มีสุขพร้อมกันได้ และในเบื้องลึกที่สุดแล้ว เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ หากสามารถแก้ไขส่วนประกอบและกลไกที่เป็นอันตราย หรือเป็นที่มาหรือตัวเอื้อให้เกิดกรรมอันเลวร้ายของสมาชิกของบ้านหลังนี้ การ แก้ปัญหาใด ๆ ในที่สุดแล้ว สิ่งที่ดีที่สุด ควรเกิดด้วยความรัก ความปรารถนาดี การสร้างสรรค์ การมองกันในแง่บวก การให้โอกาส การพยายามฟังและเข้าใจ การให้โอกาส และอะไรที่ดี ๆ อีกมากมาย อันเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ความรัก เป็นพื้นฐานของความเข้าใจ การให้อภัย และการให้โอกาสแก้ไข ทางข้างหน้า ความรัก ควรเป็นรากฐานของการใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันของผุ้คนทุกหมู่เหล่าในชาติ และเมื่อเราสามารถบรรลุซึ่งเป้าหมาย หลักการ และกลไกสังคมใหม่ได้แล้ว สันติสุขและความวัฒนาถาวรก็จัเป็นของคนไทยในที่สุด

10. รุกฆาต

ถึงเวลาที่สุด การชิงชัยก็ต้องมีจุดจบ เพราะการยืดเยื้อมันจะทำให้เกิดปัญหาวนเวียน เหมือนพายเรือในอ่าง หรือการเลี้ยงหัวฝี ซึ่งจะเป็นอันตราย เรื้อรัง และอาจถึงแก่ชีวิตได้ ดังนั้น พี่น้องคนไทยต้องคิดถึงวันที่จะต้องกำจัดปัญหาให้สิ้นซาก จุดจบของปัญหา จุดเริ่มต้นของวิถีสังคมใหม่ และความฝันใหม่ การจะไปถึงจุดนั้น มีทั้งทางที่สงบที่สุดและทางที่รุนแรงที่สุด ทางที่แข็งที่สุด กับทางที่โอนอ่อนที่สุด และทางที่อยู่ในระหว่างกรอบความรักกับกรอบการล้างแค้น ฯลฯ เป็นสองขั้วให้เราได้เลือกเสมอ ดังนั้น เราจะต้องรุกฆาตให้เด็ดขาด แต่จะรุนแรง แข็ง โหด หรือยืดเยื้อเพียงใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายกบถประชาชน หากสองฝ่ายมายืนใกล้กัน หรือหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีกำลังเหนือกว่ามาก หรือมียุทธวิะีดีกว่ามาก ๆ การจบก็จะง่ายลง และประชาชต้องกำหนดเงื่อนไขการรุกฆาตให้ได้ ถึงเวลาสำคัญแล้ว ต้องรุกแล้วปิดบัญชีให้เร็ว แล้วก้าวไปข้างหน้าได้เลย นั่นหมายความว่า แผนของประชาชนระยะสัน ระยะกลาง และระยะปลาย จะต้องเป็นไปเพื่อเตรียมความพร้อม และสร้างชัยชนะสำหรับทุกแนวรบ ทุกภารกิจ เพื่อนำไปสู่ความสุกงอมของสภาวการณ์ ที่ทำให้การรุกฆาต เป็นไปโดยง่าย สั้นกระชับ และเสียหายน้อยที่สุด พร้อมกับเดินหน้าต่อได้โดยไม่สะดุดนานเกินไป

โชคดีเถิด พี่น้องประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่

โชคดีประเทศไทยและคนไทยที่รัก

อุดมการณ์ "มดแดงล้มช้าง"

Ideology: อุดมการณ์มดแดงe)

RedAnt


อุดมการณ์มดแดงเป็นไปตามคำขวัญดังนี้     
มดแดงล้มช้าง รักประเทศไทย ใฝ่สามัคคี มีเหตุผล ฝึกฝนเสรีประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ต้านทรราช และตัดวงจรอุบาทว์ให้สิ้นเพื่อลูกหลาน
สาระสำคัญของแนวทางมดแดง
ด้วยหลักการข้างต้น อุดมการณ์มดแดง สรุปเป็นสาระสำคัญ ๆ ดังนี้
๑. มดแดงแต่ละตัว จักเชื่อว่าตนเองคือส่วนสำคัญของการสร้างพลังอันมหาศาลเพื่อการเปลี่ยน ลด ทำลายหรือกำจัดสิ่งชั่วร้าย และขณะเดียวกันเพื่อสร้างสิ่งดีมีอารยธรรมและเป็นคุณให้แก่บ้านเมืองและสืบผลไปยังลูกหลานในอนาคต
๒. มดแดงแต่ละตัว จักรู้สิทธิพื้นฐานและสิทธิอันเป็นธรรมในระบอบเสรีประชาธิปไตย โดยรู้ว่าประชาชนคือเจ้าของอำนาจสูงสุดทั้งด้านการตรากฎหมาย บริหารบ้านเมือง และการผดุงความยุติธรรมตามหลักศีลธรรมและกฎหมาย
๓. มดแดงแต่ละตัว จักขยันแสวงหาและเผยแพร่ความรู้ ความจริง และข้อมูลใหม่ ๆ อันควรต้องประดับปัญญา เพื่อการตัดสินใจที่ยุติธรรม เป็นธรรม รอบคอบ ไม่มีอคติหรือดูถูกใครอย่างไร้เหตุผล และสร้างสรรค์
๔. มดแดงแต่ละตัว จักแสวงหากัลยาณมิตร เผยแพร่ความจริง และสร้างเครือข่ายมดแดงอย่างไม่หยุดหย่อน ไม่เลือกสีเสื้อ ไม่เลือกชนชั้นวรรณะใด ๆ
๕. มดแดงแต่ละตัว จักขยันในการคิด พูด และทำ เพื่อกำจัดสิ่งชั่วร้าย และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามอันเป็นประโยชน์แก่ตนเอง คนรอบข้าง และประเทศชาติ




๖. มดแดงแต่ละตัว จักมีความอดทนต่อความเห็นต่าง มีความเข้าใจที่มาที่ไปแห่งความแตกต่าง และมีความเมตตาสูงที่จะอธิบาย รอ และให้โอกาสคนอื่นเรียนรู้ เพื่อกลายเป็นมดแดงที่เข้มแข็ง
๗. มดแดงแต่ละตัว จะต้องก้าวพ้นความคิด การพูดจา และการกระทำที่อยู่บนพื้นฐานแห่งความคับแคบ เห็นแก่ตัวมีอคติ ดูถูกผู้อื่น ผิดหลักสิทธิมนุษยชนสากล หรือมีความโกรธ และอยู่บนความหลงตัวบุคคล ระบอบ รูปแบบ และวิธีการใด ๆ เหนือหลักอารยธรรมแห่งเหตุผลและสัจจะของความเป็นมนุษย์
๘. มดแดงแต่ละตัวจักยกตัวเองเป็นตัวจักรของการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าของตัว คนรอบข้าง และสังคม ไม่งอมืองอเท้า คือนำความคิด ความรู้ และประสบการณ์ไปสานต่อและประมวลเป็นอุดมการณ์ที่ชัดเจน และกำหนดเป็นแนวปฎิบัติได้ แล้วนำไปปฎิบัติจริง ทั้งมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม
๙. มดแดงแต่ละตัว จะไม่ยอมให้เกิดสิ่งชั่วร้ายหรือการทำร้ายสมาชิกมดแดงต่อหน้าต่อตา โดยไม่กระทำการใด ๆ และสิ่งชั่วร้ายทุกสิ่ง ต้องได้รับการต่อต้าน ขัดขวาง และทำลายล้างเสมอเมื่อมีโอกาส หากทำด้วยตัวเองเกินกำลัง ต้องรู้จักระดมเครือข่ายมดแดงให้ประสานงานกันโดยธรรมชาติ ไม่ต้องรอแกนนำใด ๆ
๑๐. มดแดงแต่ละตัว จักส่งเสริมแนวทางเสรีประชาธิปไตยทุกรูปแบบ แต่จะต่อต้าน ประนาม แสดงความเกลียดชังและปฎิเสธการปกครองที่เป็นเผด็จการ การกระทำที่เป็นกบฎต่ออำนาจสูงสุดทุกชนิด และจะไม่งอมืองอเท้าดูใครย่ำยีประชาธิปไตยอีก




ทฤษฎีปฏิวัติ "มดแดงล้มช้าง" คืออะไร?

“มดแดงล้มช้าง รักประเทศไทย ใฝ่สามัคคี มีเหตุผล ฝึกฝนเสรีประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ต้านทรราช และตัดวงจรอุบาทว์ให้สิ้นเพื่อลูกหลาน
อะไรคือมดแดง และอะไรคือช้าง?
มด หมายถึงประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า เพศ วัย ระดับการศึกษา อาชีพ ทุกสีเสื้อ และทุกเชื้อชาติศาสนา ที่กำเนิดหรือได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมาย คนไทยทุกคนมีชะตากรรมร่วมกัน ประเทศชาติเจริญก็ได้อยู่ดีมีสุขร่วมกัน ประเทศล่มจมก็ได้รับผลเสียหายพร้อมกัน เหมือนพี่น้องร่วมชะตากรรมบนเรือลำเดียวกันกลางคลื่นมหาสมุทรใหญ่ แต่คนไทยส่วนหนึ่งลืมว่า เราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนเหมือนกัน อยากได้ อยากเป็น อยากมีเหมือนกัน มีหัวใจรู้สึกเจ็บ สุข เศร้า สนุก กตัญญูและคลั่งแค้นเป็นเหมือนกัน คนบางส่วนลืมว่าตนเองคือใคร และไม่สนคนผู้ต่ำต้อยกว่า เพราะได้เปรียบจากระบบที่เป็นอยู่ บางส่วนอิ่มกับเศษผลประโยชน์ที่ได้รับจากคนที่จัดการระบบบนเรือลำนี้ ก็ทำกร่างและกีดกัน เกลียดชังคนอื่น บางคนก็ยินดีเป็นตีนเป็นมือให้คนที่ยึดอำนาจไปอุปโลกครอง ยอมทำตามที่เขาให้ทำ โดยไม่ได้สำนึกว่า ตนเองกำลังเป็นทาสรับใช้ระบอบที่ไร้ธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การขัดแย้ง เสียหาย และการล่มสลายของความมั่งคั่งของผู้กดขี่และประเทศชาติจะกระทบกระเทือน เป็นปัญหาของชาติที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ ราวกับว่าพวกนี้รวมหัวกันทำให้เรือใกล้ล่มไปทุกที
แล้วมดแดงมีลักษณะพิเศษยังไงล่ะ? ช้างมันคืออะไรกัแน่?
ชาวมดแดง คือพี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่ตระหนักดีถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของบ้านเมือง แล้วเชื่อว่า คนไทยทุกคนมีพลังสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตัว และจะต้องลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ทำได้ แล้วรวมพลังกันให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่? เมื่อคุณฝึกฝนวิชามดแดงแล้ว คุณจะเป็นชาวมดแดงที่ใฝ่เรียนรู้ ใจกว้าง รักสามัคคีกันบนหลักเหตุผล ไม่ชอบลัทธิไสยศาสตร์ ไม่ชอบการกดขี่ข่มเหง ไม่ชอบความตอแหล ไม่ชอบนักการเมืองเห็นแก่ตัว ไม่หยาบคายก้าวร้าวแบบไร้อารยธรรม ชอบที่จะใช้ชีวิตอย่างมีเสรีภาพภายใต้ความเสมอภาคตามกฎหมายและระบบต่าง ๆ บนความสันติสุขแบบพี่น้องร่วมชาติ พร้อมกับทำสิ่งสร้างสรรค์ ทำประเทศให้วัฒนาถาวรทุก ๆ ด้านที่ทำได้
สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ มดแดง เป็นผู้แสวงปัญญา จึงมองเห็นพิษภัยของวงจรอุบาทว์ อันเกิดขึ้นและตั้งอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ไม่บริสุทธิ์ ถูกกลุ่มผลประโยชน์หลายกลุ่มจับมือกัน กอบโกย สร้างเครือข่าย กำหนดนโยบายแบ่งปันผลประโยชน์กันในกลุ่ม โดยละเลยประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศ แถมนำไปสู่การกดขี่ข่มเหง และย่ำยีสิทธิพื้นฐานแห่งมนุษยชนที่คนไทยและชาวโลกทุกคนควรได้รับ แล้วใช้ความได้เปรียบในระบอบและระบบเอาดีใส่ตัว โยนชั่วใส่ผู้แสวงหาสัจจะและความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองตามระบอบเสรีประชาธิปไตย??? 
แต่ในขณะที่หลายคนมองเห็นพิษภัยและความต่ำช้าของวงจรอุบาทว์ แล้วก็ท้อบ้าง มองไม่เห็นทางแก้และไม่คิดจะแก้ เพราะคิดว่ามันซับซ้อนเกินไป บางส่วนรอแกนนำ บางส่วนรอพรรคการเมือง บางส่วนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดภายใต้ระบอบการปกครองที่ทำให้คนส่วนน้อยรวยแต่อยากให้คนส่วนใหญ่พอเพียง ฯลฯ อยู่นั้น ในทางตรงกันข้าม ชาวมดแดงกลับเห็นว่า การแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่กล่าวมาและในอีกหลายมิติที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น ต้องอาศัยแรงของประชาชน คือพลังของมวลมหาประชาชน โดยเกิดจากประชาชนแต่ละคนที่รู้สิทธิพื้นฐานแห่งตน รู้หลักเหตุผลเกี่ยวกับการปกครองและอำนาจสูงสุดของประชาชนในระบอบเสรีประชาธิปไตย และตระหนักดีว่า ตนเองหนึ่งร่าง หนึ่งเสียง มีศักยภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้ โดยไม่ไปฝากความหวังไว้กับพรรคการเมือง ระบบราชการ องค์กรใด ๆ หรือแม้แต่แกนนำประชาชนผู้หวังดีจำนวนไม่น้อย โดยพวกเราเหล่ามดแดง จะพยายามมองหาต้นตอปัญหา แล้วพยายามแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือกำจัดเงื่อนไขทั้งมวลแล้วแต่กรณีไป จัดปัญหาให้เป็นหลายมิติ แล้วแก้ไขอย่างเป็นระบบ 
ขณะเดียวกัน ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่ากลุ่มใด กลไกใด และยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีใด ที่จะก่อให้เกิดผลยั่งยืนแน่นอน แล้วจึงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง แต่ไม่เคยลืมว่า อนาคตและอำนาจ มันอยู่ในมือประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เพียงพวกเราต้องใช้อำนาจของตนให้เป็น กล้าคิด กล้าทำ กล้าจินตนาการและฝัน แล้วก็รู้จักเรียนรู้ที่จะประสานงานและสร้างเครือข่ายอำนาจของตน เพื่อต่อรองและกุมอำนาจในการกำกับอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการให้ได้โดยเบ็ดเสร็จ ไม่ให้มีเหลือบหรือปลิงเข้าไปซ่อนอยู่ในระบอบแล้วกัดดูด ทำลายความวัฒนาถาวรของระบอบเสรีประชาธิปไตยได้อีก
ดังนั้นมดแดง จึงเป็นผู้ตื่นรู้ ผู้เบิกบาน ผู้แสวงหาอารยธรรม ผู้คิดดี พูดดี และทำดี เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของตัวเอง คนรอบข้าง และสังคมเสมอ… เมื่อพวกเขาเปลี่ยนแปลงเป็นอารยเสรีชนแล้ว ผู้ปกครองใด ๆ ก็ไม่อาจจะทำร้ายพวกเขาได้อีก พวกเขาจะยอมรับสิ่งชั่วร้ายในวงจรอุบาทว์ไม่ได้อีก เหมือนน้ำไม่ยอมเข้ากับน้ำมัน หรือผู้บริสุทธิ์มังสวิรัติที่ร่างกายไม่ยอมรับเนื้อใด ๆ เข้าไปอีก… มดแดง จึงอยู่บนแนวทางอหิงสาสันติวิธี และสนับสนุนวิธีเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ผู้ที่อ่อนด้อยทางปัญญาและไร้เดียงสา พวกมดแดงจึงรู้ว่าจะกำจัดคนชั่วในระดับต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่หนักหรือเบา บนดินหรือใต้ดิน อหิงสาแบบรุนแรงหรือไม่รุนแรง ฯลฯ ต่างกันไป เครือข่ายมดแดงที่เต็มบ้านเต็มเมือง จะพูดภาษาเดียวกันโดยไม่ต้องอธิบายกันมาก จะแลกเปลี่ยนข้อมูลความจริงกันแบบไม่มีใครหยุดได้ จะมองตารู้ใจและเคลื่อนไหวแบบมีเป้าหมายโดยไม่ต้องมีการชี้นำทุกก้าว พวกเขาจึงมีศักยภาพเหนือการทำลายล้างของคนโฉดในระบอบและระบบ เหมือนช้างสารที่ไม่สามารถป้องกันหรือทำลายล้างมดแดงได้ ในยามที่มดแดงกระโดดจากต้นไม้ แต่จากหลืบขอน กระโดดจากยอดไผ่ หรือไต่ขึ้นโคนขา เพื่อมุ่งหน้าไปพร้อมใจกันกัดจุดอ่อนและจุดตายของช้างบ้าที่ทำร้ายป่าอันอุดมสมบูรณ์และพืชพันธุ์ที่อาศัยร่วมกันอย่างผาสุก มดแดงทุกตัว เชื่อว่าล้มช้างได้ ต่างรู้ศักยภาพ สิทธิ หน้าที่ และเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างตื่นรู้ เบิกบาน มีสติ และสร้างสรรค์สิ่งดีและกำจัดสิ่งชั่วร้ายเสมอ… ด้วยตัวเอง และด้วยเครือข่ายที่ทรงพลังชนิดไม่มีใครควบคุมหรือกำจัดได้

ช้าง หมายถึงอะไร
พวกเราใช้ ช้าง มาอุปมาอุปมัย โดยหยิบยืมมาจากนิทานเก่าแก่ ไม่ได้มีเจตนาแสดงความเกลียดชังช้าง ซึ่งเป็นสัตว์มีประโยชน์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นเพื่อนร่วมโลกกับเรา เราใช้ช้างเป็นสัญลักษณ์ของระบอบและระบบต่าง ๆ ที่มีพลัง อำนาจและศักยภาพทำลายล้างยิ่งใหญ่ หากช้างเหล่านี้ เป็นช้างบ้า หาควานควบคุมไม่ได้ เกเรและมีแต่ทำลายสิ่งรอบตัว เป็นพิษภัยแก่มนุษย์ สัตว์อื่น ๆ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร ช้างในบริบทของสังคมไทย จึงหมายถึงความชั่วร้ายในหลายระดับ ภายใต้วงจรอุบาทว์แห่งการรัฐประหาร การเมืองที่ไม่จริงใจกับประชาชน กลุ่มผลประโยชน์ที่รวมหัวกันนอนกิน ปล้นชาติ ผลาญงบประมาณแบบหน้าไม่อาย และความตอแหลโหดร้ายของคนในระบอบทั้งหมด ช้าง จึงไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง สถาบันใดสถาบันหนึ่ง แต่หมายถึงความชั่วร้ายของหลายสิ่งหลายอย่าง ที่สติปัญญาของชาวมดแดงกำหนดรู้ และเมื่อรวมกันเข้าแล้ว ความชั่วร้ายนี้ อาจจะเปรียบเป็น เท้า งา งวง หู ตา ลำตัว หาง และตับไตใส้พุง หัวใจของช้าง ที่ประกอบกัน ทำให้ช้างนี้กลายเป็นสัตว์บ้า มีอันตรายและไร้ประโยชน์ต่อสันติสุขและความเจริญในอารยธรรมของบ้านเมืองที่เราอยู่ร่วมกัน หากเรากำกับช้างได้ เราก็รักษา ดูแล ล่ามและใช้งานเท่าที่ทำได้ แต่หากมวลมหามดแดงเห็นว่า ช้างบ้าตกมัน ไม่มีทางคืนกลับ และเป็นอันตรายเกินรักษาแล้ว การล้มช้าง จึงเป็นเรื่องที่จักเกิดเองโดยธรรมชาติ และมดแดงทั้งหลายย่อมรู้เองว่า ควรทำอะไรกับใคร เมื่อใด อย่างไร และเพื่ออะไร


หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn
ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554),,,,"Piangdin Rakthai"
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุด ของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนา และการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน หลักสันติวิธี และความจริง เหล่านี้คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้างให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบันต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติเป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามวิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชน ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อสาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้างต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการ สังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศบนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชน เป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด