Wednesday, February 28, 2018

หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง

 

หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพของประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุดของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนาและการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือ ความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง

 

สอง การใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ

 

สาม การยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน สันติวิธี และความจริง คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)

 

สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้าง ให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ

 

ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบัน ต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง

 

หก เป้าหมายของการปฏิวัติ เป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามภววิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชนตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อ สาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)

 

เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการสังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศ บนความเสียหายของชาติ

 

แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน

 

เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือเผด็จการทรราชย์ของคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภาววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด

 

สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชนเป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด


Thursday, February 22, 2018

ดร. เพียงดิน รักไทย ๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ตอน การดับความงมงาย คือการทำลาย ราชวงศ...

แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องการแสดงจุดยืนต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓ / ๒๕๕๘

แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เรื่องการแสดงจุดยืนต่อคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓ / ๒๕๕๘

เนื่องด้วยในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ “สมัชชาเสรีแห่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เพื่อประชาธิปไตย” ได้จัดกิจกรรม “รวมพลคนอยากเลือกตั้ง” แต่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่
ได้กล่าวโทษต่อ ๖ ผู้ชุมนุม ในข้อหาฝ่าฝืนข้อ ๑๒ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓ / ๒๕๕๘ ในวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ และกรณีที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ชุมนุมที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองบริเวณถนนราชดำเนินกลางในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๑ ในข้อหาฝ่าฝืนข้อ ๑๒ ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓ / ๒๕๕๘ เช่นเดียวกัน ซึ่งในการชุมนุมทั้งสองกรณีนั้น ประกอบไปด้วยสมาชิกสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นิสิตนักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมไปถึงประชาชนชาวไทยภาคส่วนอื่น ๆ

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้แสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นการปิดกั้นซึ่งเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
ที่ถูกรับรองไว้ตามมาตรา ๓๔ และมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ของประชาชน อีกทั้งยังเรียกร้องต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติถึงเรื่องการยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓ / ๒๕๕๘ มาโดยตลอด ซึ่งก็ยังไม่มีท่าทีหรือความคืบหน้าใด ๆ ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติในประเด็นดังกล่าว

ในการนี้ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังคงยืนหยัดต่อจุดยืดเดิมและเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ยุติการกล่าวโทษต่อผู้เข้าร่วมชุมนุมซึ่งเป็นประชาชนชาวไทยอันมีสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่ได้รับรองไว้ทุกประการ

สุดท้ายนี้ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอสนับสนุนต่อการใช้สิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยตามที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยเฉพาะเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธซึ่งรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติจะต้องไม่ปิดกั้นหรือขัดขวางการใช้เสรีภาพดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดให้ “ สิทธิมนุษยชน ” เป็นวาระแห่งชาติ ตามคำประกาศวาระแห่งชาติ : สิทธิมนุษยชนร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย ๔.๐ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑

-------------------
#FREETHAI   
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=163980177726586&set=gm.2058577174413381&type=3&theater&ifg=1