“มดแดงล้มช้าง รักประเทศไทย ใฝ่สามัคคี มีเหตุผล ฝึกฝนเสรีประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ต้านทรราช และตัดวงจรอุบาทว์ให้สิ้นเพื่อลูกหลาน”
อะไรคือมดแดง และอะไรคือช้าง?
มด หมายถึงประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า เพศ วัย ระดับการศึกษา อาชีพ ทุกสีเสื้อ และทุกเชื้อชาติศาสนา ที่กำเนิดหรือได้รับสัญชาติไทยตามกฎหมาย คนไทยทุกคนมีชะตากรรมร่วมกัน ประเทศชาติเจริญก็ได้อยู่ดีมีสุขร่วมกัน ประเทศล่มจมก็ได้รับผลเสียหายพร้อมกัน เหมือนพี่น้องร่วมชะตากรรมบนเรือลำเดียวกันกลางคลื่นมหาสมุทรใหญ่ แต่คนไทยส่วนหนึ่งลืมว่า เราเป็นพี่น้องกัน เป็นคนเหมือนกัน อยากได้ อยากเป็น อยากมีเหมือนกัน มีหัวใจรู้สึกเจ็บ สุข เศร้า สนุก กตัญญูและคลั่งแค้นเป็นเหมือนกัน คนบางส่วนลืมว่าตนเองคือใคร และไม่สนคนผู้ต่ำต้อยกว่า เพราะได้เปรียบจากระบบที่เป็นอยู่ บางส่วนอิ่มกับเศษผลประโยชน์ที่ได้รับจากคนที่จัดการระบบบนเรือลำนี้ ก็ทำกร่างและกีดกัน เกลียดชังคนอื่น บางคนก็ยินดีเป็นตีนเป็นมือให้คนที่ยึดอำนาจไปอุปโลกครอง ยอมทำตามที่เขาให้ทำ โดยไม่ได้สำนึกว่า ตนเองกำลังเป็นทาสรับใช้ระบอบที่ไร้ธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การขัดแย้ง เสียหาย และการล่มสลายของความมั่งคั่งของผู้กดขี่และประเทศชาติจะกระทบกระเทือน เป็นปัญหาของชาติที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ ราวกับว่าพวกนี้รวมหัวกันทำให้เรือใกล้ล่มไปทุกที
แล้วมดแดงมีลักษณะพิเศษยังไงล่ะ? ช้างมันคืออะไรกันแน่?
ชาวมดแดง คือพี่น้องคนไทยทุกหมู่เหล่า ที่ตระหนักดีถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของบ้านเมือง แล้วเชื่อว่า คนไทยทุกคนมีพลังสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตัว และจะต้องลุกขึ้นมาทำสิ่งที่ทำได้ แล้วรวมพลังกันให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่? เมื่อคุณฝึกฝนวิชามดแดงแล้ว คุณจะเป็นชาวมดแดงที่ใฝ่เรียนรู้ ใจกว้าง รักสามัคคีกันบนหลักเหตุผล ไม่ชอบลัทธิไสยศาสตร์ ไม่ชอบการกดขี่ข่มเหง ไม่ชอบความตอแหล ไม่ชอบนักการเมืองเห็นแก่ตัว ไม่หยาบคายก้าวร้าวแบบไร้อารยธรรม ชอบที่จะใช้ชีวิตอย่างมีเสรีภาพภายใต้ความเสมอภาคตามกฎหมายและระบบต่าง ๆ บนความสันติสุขแบบพี่น้องร่วมชาติ พร้อมกับทำสิ่งสร้างสรรค์ ทำประเทศให้วัฒนาถาวรทุก ๆ ด้านที่ทำได้
สิ่งสำคัญยิ่งก็คือ มดแดง เป็นผู้แสวงปัญญา จึงมองเห็นพิษภัยของวงจรอุบาทว์ อันเกิดขึ้นและตั้งอยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ไม่บริสุทธิ์ ถูกกลุ่มผลประโยชน์หลายกลุ่มจับมือกัน กอบโกย สร้างเครือข่าย กำหนดนโยบายแบ่งปันผลประโยชน์กันในกลุ่ม โดยละเลยประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวไทยส่วนใหญ่ของประเทศ แถมนำไปสู่การกดขี่ข่มเหง และย่ำยีสิทธิพื้นฐานแห่งมนุษยชนที่คนไทยและชาวโลกทุกคนควรได้รับ แล้วใช้ความได้เปรียบในระบอบและระบบเอาดีใส่ตัว โยนชั่วใส่ผู้แสวงหาสัจจะและความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองตามระบอบเสรีประชาธิปไตย???
แต่ในขณะที่หลายคนมองเห็นพิษภัยและความต่ำช้าของวงจรอุบาทว์ แล้วก็ท้อบ้าง มองไม่เห็นทางแก้และไม่คิดจะแก้ เพราะคิดว่ามันซับซ้อนเกินไป บางส่วนรอแกนนำ บางส่วนรอพรรคการเมือง บางส่วนต้องดิ้นรนเอาตัวรอดภายใต้ระบอบการปกครองที่ทำให้คนส่วนน้อยรวยแต่อยากให้คนส่วนใหญ่พอเพียง ฯลฯ อยู่นั้น ในทางตรงกันข้าม ชาวมดแดงกลับเห็นว่า การแก้ปัญหาของบ้านเมืองที่กล่าวมาและในอีกหลายมิติที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น ต้องอาศัยแรงของประชาชน คือพลังของมวลมหาประชาชน โดยเกิดจากประชาชนแต่ละคนที่รู้สิทธิพื้นฐานแห่งตน รู้หลักเหตุผลเกี่ยวกับการปกครองและอำนาจสูงสุดของประชาชนในระบอบเสรีประชาธิปไตย และตระหนักดีว่า ตนเองหนึ่งร่าง หนึ่งเสียง มีศักยภาพทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้ โดยไม่ไปฝากความหวังไว้กับพรรคการเมือง ระบบราชการ องค์กรใด ๆ หรือแม้แต่แกนนำประชาชนผู้หวังดีจำนวนไม่น้อย โดยพวกเราเหล่ามดแดง จะพยายามมองหาต้นตอปัญหา แล้วพยายามแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือกำจัดเงื่อนไขทั้งมวลแล้วแต่กรณีไป จัดปัญหาให้เป็นหลายมิติ แล้วแก้ไขอย่างเป็นระบบ
ขณะเดียวกัน ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่ากลุ่มใด กลไกใด และยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีใด ที่จะก่อให้เกิดผลยั่งยืนแน่นอน แล้วจึงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง แต่ไม่เคยลืมว่า อนาคตและอำนาจ มันอยู่ในมือประชาชนทุกคนอยู่แล้ว เพียงพวกเราต้องใช้อำนาจของตนให้เป็น กล้าคิด กล้าทำ กล้าจินตนาการและฝัน แล้วก็รู้จักเรียนรู้ที่จะประสานงานและสร้างเครือข่ายอำนาจของตน เพื่อต่อรองและกุมอำนาจในการกำกับอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการให้ได้โดยเบ็ดเสร็จ ไม่ให้มีเหลือบหรือปลิงเข้าไปซ่อนอยู่ในระบอบแล้วกัดดูด ทำลายความวัฒนาถาวรของระบอบเสรีประชาธิปไตยได้อีก
ดังนั้นมดแดง จึงเป็นผู้ตื่นรู้ ผู้เบิกบาน ผู้แสวงหาอารยธรรม ผู้คิดดี พูดดี และทำดี เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของตัวเอง คนรอบข้าง และสังคมเสมอ… เมื่อพวกเขาเปลี่ยนแปลงเป็นอารยเสรีชนแล้ว ผู้ปกครองใด ๆ ก็ไม่อาจจะทำร้ายพวกเขาได้อีก พวกเขาจะยอมรับสิ่งชั่วร้ายในวงจรอุบาทว์ไม่ได้อีก เหมือนน้ำไม่ยอมเข้ากับน้ำมัน หรือผู้บริสุทธิ์มังสวิรัติที่ร่างกายไม่ยอมรับเนื้อใด ๆ เข้าไปอีก… มดแดง จึงอยู่บนแนวทางอหิงสาสันติวิธี และสนับสนุนวิธีเหล่านี้ แต่ไม่ใช่ผู้ที่อ่อนด้อยทางปัญญาและไร้เดียงสา พวกมดแดงจึงรู้ว่าจะกำจัดคนชั่วในระดับต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่หนักหรือเบา บนดินหรือใต้ดิน อหิงสาแบบรุนแรงหรือไม่รุนแรง ฯลฯ ต่างกันไป เครือข่ายมดแดงที่เต็มบ้านเต็มเมือง จะพูดภาษาเดียวกันโดยไม่ต้องอธิบายกันมาก จะแลกเปลี่ยนข้อมูลความจริงกันแบบไม่มีใครหยุดได้ จะมองตารู้ใจและเคลื่อนไหวแบบมีเป้าหมายโดยไม่ต้องมีการชี้นำทุกก้าว พวกเขาจึงมีศักยภาพเหนือการทำลายล้างของคนโฉดในระบอบและระบบ เหมือนช้างสารที่ไม่สามารถป้องกันหรือทำลายล้างมดแดงได้ ในยามที่มดแดงกระโดดจากต้นไม้ แต่จากหลืบขอน กระโดดจากยอดไผ่ หรือไต่ขึ้นโคนขา เพื่อมุ่งหน้าไปพร้อมใจกันกัดจุดอ่อนและจุดตายของช้างบ้าที่ทำร้ายป่าอันอุดมสมบูรณ์และพืชพันธุ์ที่อาศัยร่วมกันอย่างผาสุก มดแดงทุกตัว เชื่อว่าล้มช้างได้ ต่างรู้ศักยภาพ สิทธิ หน้าที่ และเรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างตื่นรู้ เบิกบาน มีสติ และสร้างสรรค์สิ่งดีและกำจัดสิ่งชั่วร้ายเสมอ… ด้วยตัวเอง และด้วยเครือข่ายที่ทรงพลังชนิดไม่มีใครควบคุมหรือกำจัดได้
พวกเราใช้ ช้าง มาอุปมาอุปมัย โดยหยิบยืมมาจากนิทานเก่าแก่ ไม่ได้มีเจตนาแสดงความเกลียดชังช้าง ซึ่งเป็นสัตว์มีประโยชน์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน เป็นเพื่อนร่วมโลกกับเรา เราใช้ช้างเป็นสัญลักษณ์ของระบอบและระบบต่าง ๆ ที่มีพลัง อำนาจและศักยภาพทำลายล้างยิ่งใหญ่ หากช้างเหล่านี้ เป็นช้างบ้า หาควานควบคุมไม่ได้ เกเรและมีแต่ทำลายสิ่งรอบตัว เป็นพิษภัยแก่มนุษย์ สัตว์อื่น ๆ และพืชพันธุ์ธัญญาหาร ช้างในบริบทของสังคมไทย จึงหมายถึงความชั่วร้ายในหลายระดับ ภายใต้วงจรอุบาทว์แห่งการรัฐประหาร การเมืองที่ไม่จริงใจกับประชาชน กลุ่มผลประโยชน์ที่รวมหัวกันนอนกิน ปล้นชาติ ผลาญงบประมาณแบบหน้าไม่อาย และความตอแหลโหดร้ายของคนในระบอบทั้งหมด ช้าง จึงไม่ได้หมายถึงคนใดคนหนึ่ง สถาบันใดสถาบันหนึ่ง แต่หมายถึงความชั่วร้ายของหลายสิ่งหลายอย่าง ที่สติปัญญาของชาวมดแดงกำหนดรู้ และเมื่อรวมกันเข้าแล้ว ความชั่วร้ายนี้ อาจจะเปรียบเป็น เท้า งา งวง หู ตา ลำตัว หาง และตับไตใส้พุง หัวใจของช้าง ที่ประกอบกัน ทำให้ช้างนี้กลายเป็นสัตว์บ้า มีอันตรายและไร้ประโยชน์ต่อสันติสุขและความเจริญในอารยธรรมของบ้านเมืองที่เราอยู่ร่วมกัน หากเรากำกับช้างได้ เราก็รักษา ดูแล ล่ามและใช้งานเท่าที่ทำได้ แต่หากมวลมหามดแดงเห็นว่า ช้างบ้าตกมัน ไม่มีทางคืนกลับ และเป็นอันตรายเกินรักษาแล้ว การล้มช้าง จึงเป็นเรื่องที่จักเกิดเองโดยธรรมชาติ และมดแดงทั้งหลายย่อมรู้เองว่า ควรทำอะไรกับใคร เมื่อใด อย่างไร และเพื่ออะไร
หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
ลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn
ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554),,,,"Piangdin Rakthai"
ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554),,,,"Piangdin Rakthai"
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุด ของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนา และการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน หลักสันติวิธี และความจริง เหล่านี้คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้างให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบันต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติเป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามวิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชน ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อสาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้างต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการ สังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศบนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชน เป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด
หัวใจสำคัญของแนวทางปฏิวัติมดแดงล้มช้าง
ReplyDeleteลิ้งค์สำหรับดาวน์โหลดเพื่อเผยแพร่ pdf: http://tinyurl.com/jpsbcvn
ดร. เพียงดิน รักไทย 25 กุมภาพันธ์ 2559 (สรุปและพัฒนาจากความคิดเดิม เมื่อปี 2554),,,,"Piangdin Rakthai"
หนึ่ง การพัฒนาศักยภาพประชาชน คือหัวใจสำคัญที่สุด ของกระบวนการปฏิวัติ (ปัจจัยสู่ชัยชนะ) และผลของการปฏิวัติ (ชัยชนะ) ที่ยั่งยืน โดยปัจจัยที่เอื้อให้การพัฒนา และการประสพชัยชนะได้อย่างแท้จริงและรวดเร็ว คือความไม่กลัว ความฉลาดเท่าทันเกมเผด็จการ และการใช้ความได้เปรียบทุกรูปแบบในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
สอง ต้องเน้นการใช้จุดแข็งสู้จุดอ่อนของเผด็จการ กล่าวคือ ต้องใช้ความได้เปรียบเช่น จำนวนอันมหาศาลของประชาชนผู้ถูกกดขี่ ความชอบธรรมของประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก สันติวิธีที่จะทำให้อำนาจปืนและอำนาจเถื่อนเสื่อมสมรรถภาพ เครื่องมือสื่อสารทุกชนิดที่ช่วยเผยแพร่ความรู้ ความจริง ข่าวสาร และการประสานงาน ตลอดจนความได้เปรียบทางชัยภูมิ
สาม ต้องยืนบนหลักการสากล อันได้แก่ หลักประชาธิปไตยที่แท้จริงและสมบูรณ์ หลักสิทธิมนุษยชน หลักสันติวิธี และความจริง เหล่านี้คือสิ่งดีที่ปวงชนปฏิวัติต้องยึดถือและพัฒนาตัวเองให้สอดคล้อง ในขณะที่จะต้องต่อต้าน ขจัด หรือทำลายสิ่งที่ตรงข้ามในทุกมิติที่ทำได้ บนสติและความหยั่งรู้ว่า ปวงชนต้องทำตัวหรือยกระดับคุณภาพของตนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เป็นเป้าหมายของการปฏิวัติด้วย (เทียบเคียงได้กับหัวใจของศาสนาพุทธ คือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำใจให้ปราศจากกิเลส)
สี่ ประชาชนจะต้องเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง (ระบอบ) ที่ครอบงำ เอารัดเอาเปรียบ กดขี่ ข่มเหง และยัดเยียดความทุกข์ให้พวกเขาในทุกมิติ คือ การเมืองการปกครอง การทหาร เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และการต่างประเทศ โดยต้องเข้าใจว่า ตัวบุคคล โครงสร้างองค์กรหรือสถาบันต่าง ๆ กลไกและเครื่องมือต่าง ๆ ความเชื่อและวิถีปฏิบัติที่ครอบงำ (วัฒนธรรม) และจิตสำนึกที่ถูกสร้างขึ้นโดยชนชั้นที่ได้เปรียบหรือเอาเปรียบ และจะต้องช่วยกันยกระดับคนรอบข้างให้เป็นผู้รู้และเข้าใจอย่างเท่าทันต่อการกดขี่และเอารัดเอาเปรียบเชิงโครงสร้างเหล่านั้น เพื่อเป็นฐานสำหรับการเคลื่อนไหวต่อสู้ในทุกมิติ
ห้า ความสำเร็จของการปฏิวัติประชาชนในยุคปัจจุบันต้องอยู่บนความพร้อมของปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่สานสอดกัน คือ มวลชนที่พร้อมทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ อุดมการณ์ร่วมและแนวทางที่เป็นเอกภาพ ขบวนนำที่มีความชอบธรรมและจริงจังต่อระบอบประชาธิปไตย กองทัพที่ต้องรับใช้ประชาชน และมหามิตรประเทศที่พร้อมช่วยเหลืออย่างจริงจัง
หก เป้าหมายของการปฏิวัติเป็นไปตามยุทธศาสตร์รับ ยัน รุก และรุกฆาต ในแต่ละมิติตามวิสัยที่เป็นจริง แต่จะต้องมุ่งให้ประชาชน ตาสว่างทั้งแผ่นดิน ต่อต้านขัดขืนสิ่งชั่วร้ายในทุกมิติ แล้วไม่ยอมรับให้ผู้ปกครองเถื่อนปกครองอีกต่อไป และเมื่อความพร้อมมาถึง ประชาชนจะยึดอำนาจคืนมา เพื่อจัดการสร้างชาติใหม่บนหลักการในข้อสาม ข้างต้น (ล้มช้าง สร้างชาติ)
เจ็ด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้างต้องยึดหลักการใช้พลังธรรมอันมหาศาลขับไล่อธรรม หรือเอาน้ำดีมหาศาลไล่น้ำเสีย เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียอย่างควบคุมไม่ได้และยืดเยื้อเกินไป เช่นการ สังหารประชาชนมือเปล่าอย่างโหดร้าย หรือสงครามกลางเมือง หรือการแทรกแซงของต่างประเทศบนความเสียหายของชาติอันใหญ่หลวง
แปด การปฏิวัติประชาชนมดแดงล้มช้าง ถือเป็นการแก้ปัญหาในบ้านของคนไทยทุกคน ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ ไม่ใช่ศัตรูต่างด้าวที่ต้องเข่นฆ่ากันให้อาสัญ ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การสร้างสภาวะที่ทำให้คนที่ทำผิดได้เกิดสำนึกแล้วกลับตัว เพื่อก้าวร่วมกันต่อไป ดังนั้น การคิดสร้างสรรค์ การปรับจิตสำนึก การให้ความเป็นธรรม การเคารพหลักสิทธิมนุษยชน และการใช้อารยวิธี จึงเป็นสิ่งที่ ขบวนปฏิวัติต้องยึดถือด้วยความรับผิดชอบต่อชะตากรรมของบ้านเกิดเมืองนอนร่วมกันของประชาชนทุกคน
เก้า การลุกขึ้นประกาศจุดยืนไม่ยอมรับการปกครองอันมิชอบของเครือข่ายเผด็จการทรราชย์โดยคนไทยทั่วประเทศในทุกจังหวัด คือวันดีเดย์ของการรุกฆาตต่อระบอบเผด็จการ และวันนั้น จะถูกกำหนดด้วยความพร้อมของทั้งขบวนในข้อห้า และภววิสัยที่เอื้อให้เกิดความสำเร็จที่ยั่งยืนบนความเสียหายที่น้อยที่สุด
สิบ ชัยชนะที่แท้จริงที่เกิดขึ้นได้ทุกวัน คือการเปลี่ยนให้ประชาชน เป็นผู้รู้และเข้าใจปัญหาเชิงโครงสร้าง แล้วยกตนขึ้นเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง ด้วยวิถีปฏิวัติในแต่ละวันที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเมื่อประชาชนคือผู้ที่ทำตัวสอดคล้องกับหลักการการปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชนได้จนเป็นนิสัยประจำชาติแล้ว ความสำเร็จที่ยั่งยืนจึงจะได้รับการประกันในที่สุด
ใช้เวลามากและอาจทำได้เพียง 50% เสนอ อารยะขัดขึน บอยคอต เร็วและประสิทธิภาพ
ReplyDelete